Business Class EP.17 - เจาะโอกาสใหม่ กับยุทธศาสตร์โมเดลเศรษฐกิจวงจรคู่ของจีน
340 จำนวนผู้เข้าชม |
นับเป็นครั้งสำคัญทางประวัติศาสตร์จีนที่มีการประชุมร่วมสองสภา ในระหว่างวันที่ 4-11 มีนาคม 2564 ที่ผ่านมานี้ ผลการประชุมร่วมสองสภาจีนได้ชูโมเดลเศรษฐกิจวงจรคู่ Circular Economy ได้แก่ 1.สร้างประชากรชนชั้นกลางขึ้นไปให้ที่มีอำนาจซื้อ และ 2.สร้างเศรษฐกิจให้เติบโตจากตลาดต่างประเทศโดยมาจากอุตสาหกรรมใหม่แห่งอนาคต
ในวาระนี้ จีนยังคงส่งสัญญาณต่อโลกภายนอกว่า จีนยังคงดำเนินนโยบาลให้ความสำคัญกับคู่ค้าต่างประเทศ โดยเปิดเวทีโชว์ความตั้งใจต่อการเปิดกว้างให้สินค้านำเข้าจากต่างประเทศ โดยมีไฮไลท์ สำคัญ คือ งาน China International Expo ที่ท่านประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ให้ความสำคัญและมาร่วมเปิดงาน มีการประเมินมูลค่าการนำเข้าสินค้าต่างประเทศปีละ 2 ล้านล้าน (เหรียญสหรัฐ) กลไกสำคัญอันหนึ่งคือ การจัด พื้นที่การลงทุน เสรีการค้า Free Trade Zone โดยมี 10 อุตสาหกรรมแห่งอนาคต ที่จีนให้ความสนใจ ได้แก่ ไบโอเทคโนโลยี รถยนต์ไฟฟ้า AI และ Robot เป็นต้น
เป้าหมายในมุมยุทธศาสตร์จีนนี้ คือการยกระดับสู่อุตสาหกรรมใหม่ที่มีนวัตกรรม เพื่อเพิ่มความสามารถการพึ่งพาตนเองทางเทคโนโลยี หลังบทเรียน จากวิกฤตสงครามการค้า ระหว่างมังกรจีน กับ พญาอินทรีย์ สหรัฐอเมริกา
สัญญาณเชิงบวกที่ไทยควรปรับ และปฏิรูปตัวเอง เพื่อช่วงชิงโอกาส ที่จีนประสบความสำเร็จและสามารถแก้ปัญหาความยากจนให้คน 800 ล้านคน ที่วันนี้มีค่าเฉลี่ยรายได้ ต่อปี 12,700 ดอลลาห์สหรัฐ สูงกว่าประเทศไทย และยังคงเดินหน้า สู่เป้าหมายสร้างกลุ่มผู้บริโภคชนชั้นกลางกำลังซื้อสูง เพื่อสร้างตลาดการบริโภคภายในที่เข้มแข็ง
ผู้ผลิตสินค้า และบริการไทย ต้องเร่งเกมเร็ว รีบเก็บเกี่ยวโอกาสช่วงนี้ โดยการเรียนรู้พฤติกรรมผู้บริโภคจีนที่มีกำลังซื้อ ไม่ใช่จีนในมุมตลาดสินค้าถูกเท่านั้น SME จึงต้องมีเป้าหมายยกระดับมาตรฐาน พัฒนาความเข้มแข็งในช่องทางขายต่างๆที่เข้าถึง และสามารถดึงดูด ผู้บริโภคกลุ่มนี้ที่มีกำลังซื้อสูง
อีกมิติ หนึ่ง ของซัพพลายเชนภาคอุตสาหกรรมต่างๆในไทย ก็คือการเร่งเพิ่มการลงทุนด้านนวัตกรรม หากจะต่อสายกับห่วงโซ่อุตสาหกรรมแห่งอนาคตของจีน
จีนกับยุทธศาสตร์เศรษฐกิจวงจรคู่ จึงเป็นโอกาสใหม่ที่ท้าทายประเทศไทยที่จะเข้าสู่วงจรการเติบโตนี้ด้วยกัน
